ผู้บริหารพระพายแชร์แรงบันดาลใจจาก Start-up สู่การเป็นหัวแถว

สัมภาษณ์: ไม้ อุดมเดช นาเมืองรักษ์ ผู้บริหารหนุ่มแบรนด์พระพายอโรม่า แชร์มุมมองธุรกิจด้วยพลังบวก จุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จแบบ Start-up 

หนึ่งในแบรนด์เครื่องหอมที่กำลังมาแรงในตลาดไทยตอนนี้ คงไม่พูดถึง "พระพายอโรม่า" ไม่ได้ ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวและดีไซน์ร่วมสมัยที่มาพร้อมสตอรี่ชัดเจน ล่าสุดเราได้พูดคุยกับ "ไม้ - อุดมเดช นาเมืองรักษ์" ผู้บริหารหนุ่มเจ้าของแบรนด์ที่เสิร์ฟความหอมให้กับคนไทยจนฟุ้งกระจายไปถึงต่างประเทศ พร้อมแชร์แนวคิดธุรกิจ ตั้งแต่เป็นStart-upจนกระทั่งประสบความสำเร็จ 

 จุดเริ่มต้นของแบรนด์ : จากความชอบ สู่การลงมือทำ
คุณไม้เล่าว่า พระพายอโรม่า คือ แบรนด์ที่เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวด้วยแพชชั่นอันแรงกล้า

"ผมเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ช่วงใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัย ด้วยประสบการณ์ทำงานเบื้องหลังให้กับแบรนด์ต่างๆ และโรส (เกตุศิณี เพ็ชรรัตน์) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารของแบรนด์ โรสมีความชื่นชอบในเครื่องหอมอยู่แล้ว เราจึงเริ่มศึกษาและเรียนรู้การปรุงและออกแบบกลิ่น รวมถึงการเฟ้นหาวัตถุดิบต่างๆ จากทั้งในและต่างประเทศ นั่นคือจุดเริ่มต้นของพระพายอโรม่า"

การเริ่มต้นของไม้ไม่ใช่การมองหาโอกาสจากกระแสหรือการวางแผนแบบนักลงทุน แต่คือการ "ลงมือทำในสิ่งที่ชอบ" เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

 ความเชื่อในการทำธุรกิจ: ชัดในเป้าหมาย สนุกกับสิ่งที่ทำ

"สำหรับผม ผมเลือกทำในสิ่งที่ชอบ มากกว่าคิดถึงตัวเงิน เราเชื่อว่าเมื่อเราเต็มที่และสนุกกับสิ่งที่ทำ มันจะสะท้อนออกมาที่คุณภาพสินค้าและบริการเอง และที่สำคัญแบรนด์เรามีเป้าหมายชัดเจน คือ อยากผลักดันวัตถุดิบไทยให้กลายเป็น Soft Power ที่เข้าถึงง่ายและจดจำได้"

แนวคิดนี้จึงสะท้อนออกมาในสินค้าแบรนด์พระพายอโรม่า ที่มีความเป็นไทยร่วมสมัย ทั้งน่ารักและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ราคาจับต้องได้ ที่สำคัญสินค้าใช้ได้หลากหลายกลุ่มครอบคลุมทั้งนักศึกษา วัยทำงาน หรือแม้แต่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ

 ลูกค้าคือแรงบันดาลใจ

"ทุกการพัฒนาสินค้าเรามองจากลูกค้าเป็นหลัก ลูกค้าเหมือนกระจกที่คอยสะท้อนให้แบรนด์พัฒนาและปรับปรุงอยู่ตลอด เรียกได้ว่าเป็นพลังบวกที่คอยขับเคลื่อนเราก็ว่าได้ ทุกครั้งที่ได้รับฟีดแบ็กต่างๆเกี่ยวกับสินค้า เรารับฟังและนำมาพิจารณาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าเสมอ"

สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ปัจจุบันแบรนด์จะเติบโตและประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ไม้กลับไม่ได้ยึดติดกับตัวเลขยอดขาย แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและการตอบโจทย์การใช้งานจริงของลูกค้า

"ทุกวันนี้แทบไม่ดูยอดขายเลย เราอยากรู้มากกว่า ว่าลูกค้าใช้แล้วรู้สึกยังไงและตอบโจทย์ไหม กระแสสังคมคิดอย่างไรกับแบรนด์ของเรา จากนั้นเราเอาข้อมูลตรงนั้นกลับมาพัฒนา จนสินค้ากลายเป็นสิ่งที่โฆษณาตัวมันเองได้ ลูกค้าก็บอกต่อกันเอง"

 ปัญหาและบทเรียนจากการทำธุรกิจ

"หนึ่งในข้อผิดพลาดที่เคยเจอ คือ เราคิดเองคนเดียวมากเกินไป เพราะเรามั่นใจในความคิดตัวเอง ซึ่งก็ไม่ผิดนะ แต่ถ้าหนักไปก็ทำให้ตกม้าตายได้เหมือนกัน โชคดีที่เรามีทีมที่แข็งแรงมาก พวกเราสามคน ไม้ โรส และแนน (เลขา) เป็นทีมที่ลงตัวและแข็งแกร่ง ด้วยกระบวนการ  ไม้คิด โรสลงมือทำ แนนซัพพอร์ต มันเลยทำให้แบรนด์เราชัดมาตั้งแต่แรก"

อีกปัญหา คือ เรื่องระบบบริหารจัดการและคน

"เราไม่ได้จบบริหารธุรกิจมาโดยตรง มันเลยมีหลายจุดที่ต้องเรียนรู้ เรื่องระบบภายในบริษัทก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ การมีทีมปรึกษาทางธุรกิจที่ดีจะช่วยให้การวางรากฐานมั่นคงขึ้น จึงเป็นสิ่งที่เราแนะนำสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจควรลงทุน"

 เติบโตไปพร้อมกับแบรนด์

"สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำธุรกิจนี้ คือได้เติบโตขึ้นในบทบาทผู้นำองค์กร ผมไม่ใช่คนเรียนเก่งที่สุด ไม่ใช่คนกล้าแสดงออกด้วยซ้ำ แต่บทบาทที่ได้รับมันทำให้เราต้องปรับตัว ต้องกล้า ต้องเรียนรู้ ต้องรับผิดชอบมากขึ้น"

ไม้ทิ้งทายบทเรียนที่สำคัญไว้อย่างน่าคิด...

"กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือหัวใจของความสำเร็จ ถ้าเรานิ่งหรือยึดติดกับตัวเองมากเกินไป เราจะไปไม่มีทางเติบโต พระพายอโรม่าทำให้ผมกล้าทำสิ่งใหม่ๆ และผมก็อยากให้แบรนด์นี้เติบโตไปพร้อมกับทุกคน ทั้งลูกค้า คนในทีม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน"

พระพายอโรม่า ไม่ใช่แค่แบรนด์เครื่องหอม แต่คือแบรนด์ที่ส่งต่อความสุขผ่านกลิ่นหอม
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของคนที่มีความฝันและเชื่อในสิ่งที่ทำ วันนี้พระพายอโรม่าเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง หวังว่าจะสร้างพลังให้กับผู้อ่านหรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ start-up ว่า การเริ่มต้นด้วยแพชชั่นและลงมือทำอย่างสุดความสามารถ ย่อมนำไปสู่ความสำเร็จและเป็นหัวแถวได้แน่นอน!!!