ไหนใครยังฉีดน้ำหอมหลังใบหูอยู่บ้าง? ระวังแพ้ไม่รู้ตัวนะ!
เชื่อว่าหลายคน หรืออาจจะแทบทุกคนเลยก็ว่าได้
เคยได้ยินคำแนะนำว่า ถ้าอยากให้น้ำหอมติดทนนานให้ฉีดตรงจุดชีพจร อย่างเช่นหลังใบหู
มันฟังดูมีหลักการใช่มั้ย? เพราะจุดชีพจรคือบริเวณที่เลือดสูบฉีด อุณหภูมิอุ่น ๆ ทำให้น้ำหอมฟุ้งกระจายดี
แต่...เดี๋ยวก่อน!
ถึงจะดูเป็น ทริกเบสิกที่ใคร ๆ ก็ทำตาม
ความจริงแล้ว บริเวณหลังใบหูนั้นบอบบางกว่าที่คิด!
จุดที่หลายคนคิดว่าใช่ อาจไม่ใช่ก็ได้นะ
ผิวบริเวณหลังใบหูถือว่า บางและไวต่อการระคายเคืองมาก
โดยเฉพาะถ้าน้ำหอมของเธอมีแอลกอฮอล์ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มี)
เจอกับผิวตรงนี้แล้วบางคนอาจจะแสบ คัน หรือมีผื่นขึ้นเลยทีเดียว
แถม! บริเวณนี้ยังมี "ต่อมน้ำมัน"
ที่อาจทำให้กลิ่นน้ำหอม เพี้ยน หรือ เปลี่ยนไป ไม่เหมือนตอนฉีดใหม่ ๆ
บางทีจากกลิ่นหอมหวาน อาจกลายเป็นกลิ่นตุ ๆ โดยไม่รู้ตัว
แล้วแบบนี้จะฉีดตรงไหนให้กลิ่นหอมฟุ้งดีล่ะ?
ข่าวดีคือ...จุดชีพจรมีหลายที่นะจ๊ะ ไม่ต้องเสี่ยงผิวพังหลังใบหูก็หอมได้
มาลองแตะตรงนี้แทนดีกว่า
1. ข้อมือด้านใน แตะนิดเดียว พอเหงื่อออกกลิ่นจะฟุ้งแบบละมุน ๆ
2. ข้อพับแขน จุดลับแต่หอมยาวนาน คนใกล้ตัวได้กลิ่นแน่
3. ต้นคอด้านข้าง / หลังคอหอมแบบมีเสน่ห์ แค่ขยับผมก็หอม
4. หลังหัวเข่า (สำหรับคนใส่กระโปรง/กางเกงขาสั้น) กลิ่นจะลอยขึ้นตามอุณหภูมิของร่างกายเลยนะ
Tip: ใช้น้ำหอมแบบออยล์หรือแบบไม่มีแอลกอฮอล์ก็ช่วยลดการระคายเคืองได้เยอะเลย
ถ้าเธอเป็นคนผิวแพ้ง่าย หรือไม่อยากเสี่ยงให้กลิ่นน้ำหอมเปลี่ยน
เลี่ยงการฉีดหรือแตะหลังใบหูไว้ก่อนเลยจ้า
หันไปใช้จุดชีพจรอื่นแทน ทั้งปลอดภัย ทั้งหอมฟุ้งไม่แพ้กันแน่นอน