รู้ก่อนเลือกผิด! น้ำหอมรถยนต์แต่ละแบบ...แตกต่างกันยังไง?

เข้าใจความต่างของน้ำหอมรถยนต์แต่ละแบบ ก่อนเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
หลายคนอาจเคยคิดว่า น้ำหอมรถยนต์ก็แค่ของแต่งรถที่ช่วยปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมเหมือนๆกันหมด
แต่จริงๆแล้ว น้ำหอมรถยนต์มีหลายประเภท และแต่ละแบบมีกลไกการกระจายกลิ่น รวมถึงอายุการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกผิดแบบที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน อาจทำให้กลิ่นจางเร็ว หรือบางครั้งถึงขั้นกลายเป็นกลิ่นอับแทนกลิ่นหอม!
มาทำความรู้จัก 3 ประเภทของน้ำหอมรถยอดนิยมกันค่ะ
น้ำหอมรถแบบแขวน (Hanging Car Air Perfume)
ลักษณะ: ขวดเล็กดีไซน์สวย มีฝาไม้หรือฝาผ้าซึมกลิ่น ค่อยๆ กระจายความหอมเมื่อรถเคลื่อนไหว
ข้อดี
กลิ่นหอมสม่ำเสมอ ไม่แรงหรือฉุนเกินไป
ใช้งานได้นานกว่าแบบอื่น
เพิ่มความสวยงามให้ภายในรถ
ข้อเสีย
หากน้ำหอมผสมแอลกอฮอล์ ถ้าวางในจุดโดนแดดจัดเกินไป อาจทำให้น้ำหอมกลิ่นเสื่อมไว
น้ำหอมรถแบบเสียบช่องแอร์ (Air Vent Clip Perfume)
ลักษณะ: ตัวน้ำหอมอยู่ในแคปซูลหรือแท่งเจล ติดเข้ากับช่องลมแอร์โดยตรง
ข้อดี
กระจายกลิ่นไว เพราะอาศัยแรงลมจากแอร์
เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นหอมชัดๆ ตอนขับ
ข้อเสีย
กลิ่นอาจหมดเร็ว
ถ้าใช้กลิ่นแรงเกินไป อาจทำให้เวียนหัวหรือรบกวนผู้โดยสาร
น้ำหอมรถแบบเจล (Gel Type Car Perfume)
ลักษณะ: บรรจุในกระปุกหรือถ้วยเล็กๆ เปิดฝาแล้วให้กลิ่นระเหยออกมาเอง
ข้อดี
ใช้งานง่าย วางตรงไหนก็ได้
ปลอดภัย ไม่หก ไม่กระเด็น
ข้อเสีย
กลิ่นจางเร็วในอากาศร้อน
ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่าประเภทอื่น
แล้วแบบไหนดีที่สุด?
ทุกแบบดีในแบบของมันเอง สิ่งสำคัญคือ เลือกให้เหมาะกับสภาพรถและการใช้งานของคุณ
ถ้าขับทางไกลบ่อย แบบแขวนจะกระจายกลิ่นได้คงที่
ถ้าอยากได้กลิ่นแรงชัดเวลาสตาร์ทรถ แบบเสียบช่องแอร์เหมาะสุด
ถ้าเน้นความเรียบง่ายวางไว้หอมเลย แบบเจลคือคำตอบ
น้ำหอมรถไม่ได้เหมือนกันแค่เปลี่ยนกลิ่น หรือแพ็กเกจ
แต่ละแบบถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับชีวิตของผู้ขับขี่แต่ละคนค่า


