เคยไหม? ทำไมเวลาฉีดน้ำหอมถึงได้กลิ่นแอลกอฮอล์
หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ทำไมเวลาฉีดน้ำหอมทีไร...ได้กลิ่นแอลกอฮอล์นำมาก่อนทุกครั้ง ทั้งที่ตอนลองดมจากขวดกลิ่นกลับหอมละมุนกว่า นี่คือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นจากเคมีของน้ำหอมโดยตรงเลยค่ะ
️แอลกอฮอล์คือหัวใจของการกระจายกลิ่น
ในสูตรน้ำหอม แอลกอฮอล์ (Ethanol) ทำหน้าที่เป็น ตัวพา (Carrier) ที่ช่วยกระจายโมเลกุลของกลิ่นให้ลอยฟุ้งและระเหยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเราฉีดน้ำหอม แอลกอฮอล์จะระเหยก่อนเสมอ ทำให้ช่วงแรกได้กลิ่นแอลกอฮอล์แรงกว่าโน้ตหอมจริง
แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะกลิ่นนี้จะค่อย ๆ จางลงภายใน 5-15 วินาทีแรก ก่อนจะเผย Top Notes ที่เป็นกลิ่นเอกของน้ำหอม
ระยะเวลาที่กลิ่นแอลกอฮอล์ควรอยู่
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ระเหยไวในช่วงสั้น ๆ ถือว่าเป็นสัญญาณดีของน้ำหอมคุณภาพ
แต่ถ้าคุณพบว่า...
"กลิ่นแอลกอฮอล์แรงและค้างนานเกิน 1 นาที หรือกลบกลิ่นหอมจนแทบไม่เหลือ"
อาจเป็นได้ว่า...
- หัวน้ำหอม (Fragrance Oil) ใส่น้อยเกินไป มักพบในน้ำหอมราคาต่ำหรือสูตร mist
- ใช้แอลกอฮอล์คุณภาพต่ำ ทำให้กลิ่นฉุนหรือระเหยไม่สม่ำเสมอ
- น้ำหอมเสื่อมอายุหรือโดนแดด จนสูตรเปลี่ยนและกลิ่นเพี้ยน
- อุณหภูมิห้องร้อนจัด ก็ส่งผลต่อความฉุนของแอลกอฮอล์เช่นกัน
วิธีลดกลิ่นแอลกอฮอล์ตอนฉีดน้ำหอม
อยากให้กลิ่นหอมออกมาชัด ฟุ้ง และไม่ฉุน ลองปรับตามนี้ได้เลยค่ะ
1. ฉีดบนผิวที่ชุ่มชื้น เช่นหลังอาบน้ำหรือทาโลชั่น เพราะจะช่วยให้กลิ่นเกาะผิวได้ดี
2. เว้นระยะห่าง 15-20 ซม. ระหว่างฉีด เพื่อลดแรงพ่นตรงจุด
️3. อย่าถูข้อมือหลังฉีด เพราะจะทำให้โมเลกุลกลิ่นแตกและกลิ่นแอลกอฮอล์กระจายไม่สม่ำเสมอ
️4. เก็บน้ำหอมในที่เย็นและแสงไม่จัด เช่น ตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งในห้อง
แล้วแอลกอฮอล์จำเป็นไหมในน้ำหอม?
คำตอบคือจำเป็นค่ะ เพราะมันช่วยให้น้ำหอมกระจายได้ดีกว่าแบบน้ำมันล้วน (Oil-based perfume)
น้ำหอมที่ไม่มีแอลกอฮอล์มักมีกลิ่นหอมแนบผิว แต่อาจกระจายไม่ไกล
ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้ ว่าชอบแบบหอมแนบตัว หรือหอมฟุ้งรอบกาย
️สรุปสั้น ๆ จากพระพายอโรม่า
กลิ่นแอลกอฮอล์หลังฉีดน้ำหอมไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นช่วงเวลาที่กลิ่นกำลังกระจายและระเหย
ถ้าเลือกน้ำหอมที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี เก็บรักษาถูกวิธี และฉีดอย่างเหมาะสม
กลิ่นหอมจะค่อย ๆ เผยความหอมแบบละเมียดละไม อยู่กับคุณได้นานตลอดวันแน่นอนค่า