ทำไม "ฟักทอง" ถึงเป็นไอคอนเดือนตุลาและฮาโลวีน

เมื่อพูดถึงเดือนตุลาคม ภาพที่ลอยมาในหัวของใครหลายคนคงหนีไม่พ้น ฟักทองสีส้ม และกลิ่นเครื่องเทศหอม ๆ ที่อบอวลอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นในขนม เครื่องดื่ม หรือแม้แต่น้ำหอม แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมฟักทองถึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเดือนตุลาและฤดูใบไม้ร่วงไปได้อย่างไร?
จุดเริ่มต้นของ ฟักทองแห่งฤดูใบไม้ร่วง
ฟักทองมีต้นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นพืชที่เก็บเกี่ยวได้ช่วงปลายปีพอดี ซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ร่วงของซีกโลกเหนือ ชาวยุโรปที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในอเมริกาเหนือจึงนำฟักทองมาใช้ในเทศกาล Harvest Festival เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว และต่อมากลายเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Halloween ที่เราคุ้นตา

จากอาหารกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความลึกลับ
ตำนาน Jack-o-Lantern หรือ โคมฟักทอง มาจากเรื่องเล่าของชายชื่อ Jack ที่หลอกปีศาจจนต้องเร่ร่อนพร้อมแสงไฟในฟักทอง จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวิญญาณและความลึกลับในเดือนตุลา
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฟักทองยังแทนความอบอุ่น ความอุดมสมบูรณ์ และการเริ่มต้นใหม่ หลังฤดูร้อนผ่านไป ทำให้ Pumpkin & Spice กลายเป็นกลิ่นที่ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคย
Pumpkin Spice ในโลกของกลิ่นหอม
กลิ่น Pumpkin Spice ที่เราคุ้นเคย ไม่ได้มีแค่กลิ่นฟักทองเท่านั้น แต่เป็นการผสมผสานของ Cinnamon (อบเชย), Nutmeg (ลูกจันทน์เทศ), Clove (กานพลู) และ Vanilla เข้าด้วยกัน โน้ตกลิ่นเหล่านี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในน้ำหอมแนว Gourmand และ Warm Oriental เพื่อให้ความรู้สึกนุ่ม อบอุ่น และหอมละมุนเหมือนขนมอบใหม่
กลิ่นนี้มักถูกใช้ในน้ำหอมที่ให้ความรู้สึก comforting & cozy เหมาะกับอากาศเย็นช่วงปลายปี เป็นกลิ่นที่ปลุกทั้ง ความทรงจำ และอารมณ์ผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
ฟักทองไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่คืออารมณ์ของฤดู
ฟักทองจึงไม่ได้เป็นแค่ของตกแต่งในเทศกาล Halloween เท่านั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของแห่งฤดู ที่รวมทั้งความลึกลับและความอบอุ่นเอาไว้ในกลิ่นเดียว
อ้างอิง
Smithsonian Magazine: The Origins of Pumpkin Spice and Why We Love It
BBC Food: Why Pumpkin Became the Flavor of Autumn
Fragrantica: Warm Spices in Perfumery How Comfort Becomes a Scent


